Breaking News

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยเศรษฐกิจไทยปี 2567 โต 2.5% ต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 2.6% เล็กน้อย GDP ไตรมาส 4 ขยายตัวที่ 3.2% YoY น้อยกว่าที่คาด หลักๆ เป็นผลจากสินค้าคงคลังที่หดตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ามากกว่าที่คาด จากความความเชื่อมโยงระหว่างภาคการผลิตและการส่งออกที่ต่ำกว่าที่ประเมิน โดยแม้การส่งออกจะขยายตัวได้ดีในหลายสินค้า แต่การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังแทบจะไม่ขยายตัว ขณะที่การผลิตภาคเกษตรขยายตัวต่ำ ทั้งเป็นผลจากการปรับฐานในไตรมาส 4/2566 ให้สูงขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้อัตราการขยายตัวในไตรมาส 4/2567 ต่ำกว่าที่คาดไว้  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยการส่งออกไทยในเดือน ธ.ค. 2567 ขยายตัว 8.7%YoY ส่งผลให้ทั้งปีขยายตัวได้ 5.4% โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงเป็นประวัติการณ์ จากการเร่งส่งออกสินค้าและวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ • ในปี 2568 การส่งออกไทยมีแนวโน้มเติบโตได้ต่ำกว่าปี 2567 ที่ 2.5% โดยครึ่งปีแรกยังมีแรงหนุนจากการเร่งนำเข้าสินค้าและวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือน ธ.ค. 2567 เร่งตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1.23% YoY สูงสุดในรอบ 7 เดือน และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือน ธ.ค. 2567 อยู่ที่ 0.79% YoY โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากราคาพลังงานอย่างค่าไฟฟ้าและราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ปรับสูงขึ้นจากปัจจัยฐานต่ำในเดือน ธ.ค. 2566 เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของทางภาครัฐ ประกอบกับราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มบางรายการปรับตัวสูงขึ้น

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เปิดตัวผู้นำคนใหม่ “กัมพล จันทวิบูลย์” ขับเคลื่อน KKP

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เปิดตัวผู้นำคนใหม่ “กัมพล จันทวิบูลย์” ขับเคลื่อน KKP
1
เขียนโดย Intrend online 2025-03-12

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เปิดตัวผู้นำคนใหม่ “กัมพล จันทวิบูลย์” ขับเคลื่อน KKP สู่การเป็นคู่คิดทางการเงินในทุกช่วงชีวิต

 
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKP) ประกาศแต่งตั้ง นายกัมพล จันทวิบูลย์ ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ แทนนาย ฟิลิป เชียง ชอง แทน ซึ่งกำลังจะครบกำหนดเกษียณอายุในเดือนธันวาคม 2568 รับภารกิจเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการของธนาคารเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อและตอบโจทย์แบบรวบยอดสำหรับลูกค้า มุ่งหน้าสู่การเป็นคู่คิดทางการเงินในทุกช่วงชีวิต ในขณะที่นายฟิลิปจะเปลี่ยนบทบาทมาสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านในฐานะของประธานธุรกิจธนาคารรายย่อย


ในการเข้ามารับตำแหน่ง นายกัมพลกล่าวว่า โจทย์สำคัญคือการทำให้ KKP เป็นมากกว่าผู้นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงิน แต่คือ “คู่คิด” ที่เข้าใจ “วัตถุประสงค์” หรือความต้องการในแต่ละช่วงของชีวิตของลูกค้าได้อย่างถ่องแท้ และนำเสนอคำตอบได้อย่างครอบคลุมตรงจุด และในขณะเดียวกัน ก็ต้องเร่งใช้เทคโนโลยีเสริมศักยภาพการให้บริการ และสร้างประสบการณ์สำหรับลูกค้าที่ราบรื่นในทุกช่องทางไม่ว่าออนไลน์หรือออฟไลน์ และมีความจำเพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าแต่ละราย


“เพื่อก้าวสู่เป้าหมายดังกล่าว ธนาคารจะเดินหน้าพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าด้านไอที ข้อมูล หรือกระบวนการต่างๆ ให้มีความเสถียร ปลอดภัย และให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดี ส่งเสริมทรัพยากรบุคคลให้สร้างผลิตภาพได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้น ก็คือการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อสร้างความเข้าใจในคุณค่าที่เราต้องการส่งมอบ เพื่อรักษาและขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” นายกัมพลกล่าว


ทั้งนี้ นายกัมพล ยังเป็น CEO คนแรกและคนปัจจุบันของ KKP Dime บริษัทภายในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เจ้าของแอปพลิเคชัน Dime! ซึ่งบุกเบิกการเทรดหุ้นสหรัฐฯ  จนกลายเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมสำหรับนักลงทุนรายย่อย ที่ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดร่วม 2,000,000 ดาวน์โหลด โดยนายกำพลจะดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของธนาคาร และ CEO ของ KKP Dime ควบคู่กันจนกว่าจะสรรหาผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ KKP Dime ได้


นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า “คุณกัมพลมีประสบการณ์ในการทำ Digital Banking มาอย่างยาวนานและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า ในแบบที่เข้าถึงได้ง่ายและแตกต่าง อย่างที่แสดงให้เห็นจากความสำเร็จของแอปพลิเคชัน Dime! จึงมั่นใจว่าคุณกัมพลจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของธนาคารสู่การเป็นคู่คิดทางการเงินในทุกช่วงชีวิตของลูกค้าได้เป็นอย่างดี”


“การที่สถาบันการเงินสามารถตอบโจทย์ทางการเงินลูกค้าได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และเปี่ยมประสิทธิภาพ คือหัวใจหลักที่ช่วยปลดปล่อยศักยภาพให้กับระบบเศรษฐกิจ  ทิศทางที่เราจะมุ่งหน้าต่อไปจึงยังเป็นการคิดค้นและพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อส่งมอบคุณค่าที่แท้จริงและยั่งยืนให้กับลูกค้า ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘เติบโตไปพร้อมกับความสำเร็จของลูกค้า เศรษฐกิจ และสังคม’” นายกัมพลกล่าว